มังคุด พลิกวงการแพทย์
ล่ำสุด! นักวิทย์ไทยใช้ "มังคุด" พลิกวงการแพทย์รักษามะเร็งได้โดยไม่พึ่งเคมี
"ย้อนวัยได้ 3 ปี หายมะเร็งต่อมน้ำเหลืองใน 12 สัปดาห์ ไม่พึ่งเคมี ไม่ต้องนอนโรงพยาบาล"
ในวันที่วงการแพทย์ทั่วโลกยังคงมุ่งพัฒนาแนวทางใหม่ในการต่อสู้กับโรคมะเร็ง นักวิทยาศาสตร์ไทยกลับสร้างความหวังครั้งใหม่ ด้วยแนวทางธรรมชาติที่เรียบง่ายแต่ทรงพลัง โดยอาศัย "มังคุดเสริมฤทธิ์" ที่ได้รับการพัฒนามากว่า 40 ปี เมื่อวันที่ 12 กรกฎาคม 2568 ศ.ดร.พิเชษฐ์ วิริยะจิตรา หัวหน้าคณะนักวิจัย Operation BIM และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอเชี่ยน ไฟย์โตซูติคอลส์ จำกัด (มหาชน) หรือ APCO แถลงถึงความสำเร็จในการช่วยผู้ป่วยมะเร็งต่อมน้ำเหลืองระยะที่ 2 ด้วยการเสริมภูมิคุ้มกันธรรมชาติ ผ่านผลิตภัณฑ์จากสารสกัดมังคุด
กรณีศึกษาที่น่าทึ่งคือชายไทยวัย 63 ปี ผู้ปฎิเสธการรักษาด้วยเคมีบำบัดและเลือกใช้นว้ตกรรม "มังคุดเสริมฤทธิ์" วันละ 9 แคปซูล ต่อเนื่อง 12 สัปดาห์ โดยได้รับการดูแลโดยทีมวิจัยตลอดกระบวนการ ผลลัพท์ที่ได้คือ มะเร็งหายโดยสมบูรณ์ (Spontaneous Regression) และอายุชีวภาพของร่างกายลดลงเหลือ 60 ปี
จุดเปลี่ยนของวงการแพทย์ธรรมชาติ
ศ.ดร.พิเชษฐ์ กล่างถึงหลักการนวัตกรรมสำคัญว่า "เราไม่ได้ทำลายธรรมชาติของร่างกาย แต่เสริมให้ธรรมชาติสามารถฟื้นตัวและเยียวยาตัวเองได้เต็มที่อีกครั้ง" โดยระหว่างการใช้นวัตกรรรม พบว่าจำนวนสเต็มเซลล์ในร่างกายเพิ่มขึ้น และแปรเปลี่ยนเป็นเซลล์ภูมิคุ้มกัน โดยเฉพาะ T Cell ที่มีหน้าที่ตรวจจับและทำลายเซลล์ผิดปกติ เช่น เซลล์มะเร็ง
ทางเลือกใหม่ที่ปลอดภัยและประหยัด
ข้อมูลจากสถาบันมะเร็งแห่งชาติระบุว่า ประเทศไทยมีผู้ป่วยมะเร็งรายใหม่กว่า 140,000 รายต่อปี หรือเฉลี่ยวันละ 400 ราย โดยเฉพาะ "มะเร็งต่อมน้ำเหลือง" ซึ่งติด 1 ใน 5 ของมะเร็งชายไทย ด้วยอัตรา 6.6% กลุ่มเสี่ยงคือผู้สูงอายุ และผู้ที่มีภูมิคุ้มกันบกพร่อง
การรักษาตามแนวทางแพทย์แผนปัจจุบันมีต้นทุนสูงระหว่าง 300,000 - 1,500,000 บาท ขึ้นอยู่กับวิธีและระยะของโรค และมักมีผลข้างเคียง ในขณะที่ใช้มังคุดเสริมฤทธิ์มีค่าใช้จ่ายโดยประมาณเพียง 20,000 บาท ตลอด 12 สัปดาห์ และไม่ก่อให้เกิดผลข้างเคียงใดๆ
งานวิจัยระดับนานาชาติรองรับ
นวัตกรรมนี้ได้รับการตีพิมพ์ในวารสารวิชาการต่างประเทศหลายฉบับ โดยชี้ให้เห็นว่าสารสกัดจากมังคุดมีฤทธิ์กระตุ้นภูมิคุ้มกันแบบสมดุล ลดการอักเสบ และส่งเสริมการฟื้นฟูสุขภาพโดยรวมได้อย่างมีประสิทธิภาพ
"มันไม่ใช่แค่การดูแลโรค แต่คือการคืนสมดุลให้ธรรมชาติในตัวเรา
ศ.ดร.พิเชษฐ์ วิริยะจิตรา
ขอบคุณข้อมูลจาก Thailand Science News
